กล้องดูดาวคุณภาพสูงที่ถูกออกแบบมาให้ใช้หลักของเลนซ์และกระจกร่วมกัน เนื่องจากกระจกของกล้องแบบนี้จะเป็นกระจกที่มีความโค้งแบบ Spherical ซึ่งมีอาการคลาดทางความโค้งอยู่ (อ่านความรู้เรื่องของกระจก) จึงต้องมีชิ้นเลนซ์อีกชิ้นหนึ่งที่ทำหน้าที่แก้ไขเรื่องของการคลาดทางความโค้งนี้ เราเรียกกระจกชิ้นนี้ว่า Corrector Plate
เราแบ่งเป็นชนิดย่อยๆ ของกล้องแบบผสมออกเป็น ชมิดท์-แคสสิเกรนส์ (Schmidt-cassegrain), มาคซูตอฟ (Maksutov) หลักการโดยรวมแล้วจะเหมือนกันแต่จะแก้ไขส่วนของ Corrector Plate เท่านั้น จะใช้กระจก 2 ชุด สะท้อนแสงกลับ ไป-มา ช่วยให้ลำกล้องสั้น เราจะพบว่า กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่มี ความยาวโฟกัสมาก ดังเช่น กล้องโทรทรรศน์บนหอดูดาว มักจะเป็นกล้องชนิดนี้
หลักการของกล้องโทรทัศน์ชนิดผสม
กล้องจะรับแสงจากวัตถุที่ระยะไกลๆผ่านชิ้นเลนซ์ด้านหน้าที่เราเรียกว่า Corrector Plate หรือแผ่นแก้ไข เพื่อแก้ไขและเบี่ยงเบนแสงบริเวณขอบเลนซ์ให้ดีขึ้น ก่อนจะมากระทบกระจกบานแรกที่ท้ายกล้อง ที่เราเรียกว่า Primary Mirror ซึ่งเป็นกระจกที่มีความโค้งแบบ Spherical และมีรูอยู่กลางกระจก แล้วสะท้อนกลับไปที่ Corrector Plate ซึ่งตรงกลางจะมี Secondary Mirror สะท้อนกลับมาที่ท้ายกล้องเข้าสู่เลนซ์ตาขยายภาพอีกทีหนึ่ง หลักการคล้ายกับกล้องแบบนิวโทเนี่ยน แต่กล้องแบบผสม จะดูภาพจากท้ายกล้อง ไม่ใช่ข้างกล้อง และภาพที่ได้ยังมีการกลับหัวและกลับซ้ายขวา ซึ่งต้องอาศัย diagonal prism ช่วยแก้ไขภาพเหมือนกับกล้องแบบหักเหแสง
โครงสร้างของกล้องแบบชมิคท์-แคสซิแกน
โครงสร้างของกล้องแบบมาคซูทอฟ-แคสซิแกน
ประวัติการพัฒนาของกล้องแบบผสม
กล้องชมิดท์-แคสซิเกรน (Schmidt-Cassegrain) ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดย Bernhard Schmide เมื่อปี คศ.1930 โดยการใช้กระจก Primary แบบ Spherical แต่ใช้เลนซ์ที่เรียกว่า Corrector Plate แก้ปัญหาเรื่องการคลาดทางความโค้งของ Primary Mirror

กล้องชมิดท์-แคสซิเกรน (Schmidt-Cassegrain) ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดย Bernhard Schmide เมื่อปี คศ.1930 โดยการใช้กระจก Primary แบบ Spherical แต่ใช้เลนซ์ที่เรียกว่า Corrector Plate แก้ปัญหาเรื่องการคลาดทางความโค้งของ Primary Mirror
กล้องมาคซูทอฟ-แคสซิเกรน (Maksutov Cassegrain) ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดย Dmitri Maksutov ชาวรัสเซีย เมื่อปีคศ.1941 โดยมีหลักการคล้ายกับ Schmidt-Cassegrain ซึ่งกระจกหลักเป็นแบบ Spherical และใช้ Corrector Plate เป็นตัวแก้เรื่องการคลาดทางความโค้ง แต่ตัว Corrector Plate นั้นต่างกันซึ่งมักจะทำให้มีขนาดใหญ่ได้ยาก เราจึงเห็นกล้องแบบมาคซูทอฟมีขนาดไม่เกิน 7 นิ้ว


กล้องอากูนอฟ-แคสซิเกรน (Argunov Cassegrain)
ถูกประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกเมื่อปี คศ. 1972 โดย P.P. Argunov โดยระบบ Optic ทั้งหมดเป็นแบบ Spherical แต่เนื่องจากสร้างยากจึงไม่ได้รับความนิยม
ถูกประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกเมื่อปี คศ. 1972 โดย P.P. Argunov โดยระบบ Optic ทั้งหมดเป็นแบบ Spherical แต่เนื่องจากสร้างยากจึงไม่ได้รับความนิยม
กล้องชมิดท์-นิวโทเนียน (Schmidt-Newtonian) เป็นกล้องรุ่นใหม่ที่ออกแบบโดยบริษัท Meade เป็นผสมระหว่างcorrecter plted แบบชมิดท์-แคสซิเกรน กับ กล้องแบบนิวโทเนียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น